พรีวิว : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – วีแกน แอธเลติก
ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่แน่ว่ามิเกล ซิลแวสตร์ จะลงเล่นได้หลังจากได้รับอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในเกมเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีเวส บราวน์ เป็นตัวแทน ในขณะที่รุด ฟาน นิสเตลรอย ดาวซัลโวสูงสุดจะกลับมาลงเล่นได้หลังจากพ้นโทษห้ามแข่ง
วีแกน แอธเลติก จะได้อาร์ยัน เดอ ซูว์ กัปตันทีมกลับมาลงเล่นได้หลังจากไม่ได้ลงเล่นในเกมที่แพ้เชลซี เมื่อวันเสาร์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ในขณะที่พอล จีเวลล์ ผู้จัดการทีมอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงทีมในบางตำแหน่งเพื่อรักษาความสดของผู้เล่นจากการลงเล่น 4 นัดใน 11 วัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม โฮเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิเกล ซิลแวสตร์, เวส บราวน์, จอห์น โอเชีย, คีแรน ริชาร์ดสัน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, พอล สโคลส์, อลัน สมิธ, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, ปาร์ค จีซุง, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่
วีแกน แอธเลติก ไมค์ พอลลิตต์, ปาสกาล ชิมบงด้า, สตีเฟ่น แม็คมิลแล่น, แม็ตต์ แจ็คสัน, สเตฟาน อองโชซ์, อองรี กามาร่า, แอนดรีส โจฮันส์สัน, อาร์ยัน เดอ ซูว์, เกรแฮม คาวานาฟ, อลัน มาห์น, เดเมี่ยน ฟรานซิส, ไรอัน เทย์เลอร์, แกรี่ ทีล, จิมมี่ บูลลาร์ด, เลย์ตัน เบนส์, ลี แม็คคูลลอช, เจสัน โรเบิร์ตส, โจซิฟ สโกโก้, เดวิด คอนนอลลี่, เดวิด ไรท์, แกรี่ วอลช์
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพบกับวีแกน เป็นครั้งแรกในทุกรายการ โดยหวังจะเอาชนะวีแกน ที่ฟอร์มย่ำแย่จากการแพ้ติดต่อกันมา 4 นัดรวด เกมนี้เป็นเกมที่ปิศาจแดง เหลือจากการลงเล่นน้อยกว่าเชลซี อยู่ 1 นัด การได้ 3 คะแนนจะทำให้พวกเขากลับขึ้นไปเป็นอันดับที่ 2 ของตาราง โดยจะตามหลังจ่าฝูงอยู่ 9 คะแนน
เกมที่เสมอ 1-1 กับเอฟเวอร์ตัน เมื่อวันอาทิตย์ เป็นอีกเกมหนึ่งที่เป็นผลเสียต่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่เป็นเกมที่ทำให้ปิศาจแดง ไม่แพ้ใครในลีกมา 5 นัดแล้ว พวกเขาชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัด นับตั้งแต่ที่แพ้มิดเดิ้ลสโบรซ์ 1-4 ในเกมเยือน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้นัดเดียวในเกมลีก 9 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะทำสถิติไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกัน 10 นัดรวดในทุกรายการ โดยจะไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกัน 5 นัดรวดที่โรงละครแห่งความฝัน ชัยชนะ 9 นัดที่ผ่านมาของปิศาจแดง ในลีกฤดูกาลนี้เกิดขึ้นที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3 นัด (ชนะแอสตัน วิลล่า, เชลซี และปอร์ทสมัธ) ซึ่งนับเป็นครึ่งหนึ่งของชัยชนะในเกมเยือน
วีแกน แอธเลติก จะลงเล่นเกมลีกนัดที่ 200 ภายใต้การคุมทีมของพอล จีเวลล์ หวังจะเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อทำให้ได้ครบ 350 คะแนนจากที่เป็นไปได้ 600 คะแนนภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน
วีแกน ทำผลงานหยุดชะงักหลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยแพ้รวดต่ออาร์เซน่อล, สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และเชลซี เกมนี้จะเป็นเกมสุดท้ายที่พบกับทีมชั้นนำในพรีเมียร์ชิพ 5 นัดติดต่อกัน เกมต่อไปจะไปเยือนชาร์ลตัน ทีมอันดับที่ 11 ในวันเสาร์ หากชนะในเกมนี้จะทำให้ลดช่องว่างตามหลังปิศาจแดง เหลือ 3 คะแนน
วีแกน ทำประตูไม่ได้มา 2 นัดหรือ 182 นาทีในลีก (3 ชั่วโมง 2 นาที) แต่มีฟอร์มในเกมเหย้าและเกมเยือนใกล้เคียงกัน โดยในเกมเหย้าทำได้ 13 คะแนน จากการชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัด ส่วนในเกมเยือนทำได้ 12 คะแนน จากการชนะ 4 นัด (ชนะเวสต์ บรอม, เอฟเวอร์ตัน, แอสตัน วิลล่า และปอร์ทสมัธ)
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 3 มี 31 คะแนน, ขาดอีกนัดเดียวจะแพ้ครบ 600 นัดในลีกช่วงหลังสงครามโลก, ผลงาน 3 นัดหลังสุดในทุกรายการจบลงด้วยการชนะ, แพ้ และเสมอ ตามลำดับ, ชนะ 6 นัดจาก 9 นัดหลังสุดในลีก, แพ้ 1 นัดจาก 9 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูได้ทุกนัดในเกมลีก 10 นัดหลังสุด, ทำประตูไม่ได้ 1 นัดจาก 15 นัดในลีก (เสมอ 0-0 ในเกมเยือนลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 18 กันยายน), เป็น 1 ใน 2 สโมสรที่ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ อีกสโมสรหนึ่งคือเชลซี, ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวจาก 20 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ, ชนะทุกนัดที่เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูได้ (ที่ผ่านมา 19 นัด 24 ประตู,ในฤดูกาลนี้ 7 นัด 7 ประตู), ผ่านมาแล้ว 10 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่เสมอแบบไร้สกอร์, ไม่แพ้ใครในบ้าน 9 นัดหลังสุดในเกมลีกและบอลถ้วย, ชนะ 5 นัด และเสมอ 4 นัดในทุกรายการที่สนามโอล์ด แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ที่แพ้แบล็คเบิร์น 1-2 ในพรีเมียร์ชิพ เมื่อวันที่ 24 กันยายน, ทำประตูได้ทุกนัดในเกมเหย้า 10 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูไม่ได้ในเกมเหย้าเพียงนัดเดียวในลีกนับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม คือเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์กับแบล็คเบิร์น เมื่อวันที่ 2 เมษายน, ทำได้นัดละ 1 ประตูในเกมลีกทุกนัดที่ลงเล่นในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในฤดูกาลนี้ ยกเว้นเกมที่พบกับปอร์ทสมัธ ทำได้ 3 ประตู
วีแกน แอธเลติก อยู่อันดับที่ 7 มี 25 คะแนน, ทำคะแนนไม่ได้เลยจาก 12 คะแนนหลังสุด นับตั้งแต่ที่ชนะ 2-0 ในเกมเยือนปอร์ทสมัธ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน, ชนะ 6 นัดจาก 10 นัดในพรีเมียร์ชิพ, แพ้ 4 นัดจาก 16 นัดในเกมลีกและบอลถ้วย, เสมอเพียงนัดเดียวในทุกรายการในฤดูกาลนี้, ยังไม่เคยเสมอในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพ, 11 นัดจาก 15 นัดในลีกจบลงด้วยการชนะหรือแพ้ด้วยผลต่าง 1 ประตู, ไม่เสียประตู 5 นัดจาก 10 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูไม่ได้ 2 นัดจาก 13 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ, ยังไม่เคยทำได้มากกว่านัดละ 2 ประตูในพรีเมียร์ชิพ, ผ่านมาแล้ว 17 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่เสมอแบบไร้สกอร์, ชนะทุกนัดที่ทำประตูขึ้นนำไปก่อนในลีก (7 นัด), ชนะทุกนัดที่ไม่เสียประตูในพรีเมียร์ชิพ (6 นัด), แพ้ 2 นัดหลังสุดในเกมเยือนโดยทำประตูไม่ได้, ทำประตูไม่ได้มา 191 นาที (3 ชั่วโมง 11 นาที) ในเกมเยือนในพรีเมียร์ชิพ นับตั้งแต่ประตูของเจสัน โรเบิร์ตส ในเกมเยือนปอร์ทสมัธ ที่สนามแฟร็ตตัน ปาร์ค เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำไปแล้ว 13 ประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกรายการ ถือเป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพที่ทำประตูได้มากที่สุด
ดาวยิงดัตช์แมน ทำไปแล้ว 11 ประตูในลีก นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ชิพ ร่วมกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี
มีเพียงประตูเดียวจาก 6 ประตูที่เวย์น รูนี่ย์ ทำได้ในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ที่ทำได้ในเกมเหย้า
ถ้าไรอัน กิ๊กส์ ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกนัดที่ 400 ทั้งหมดลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วีแกน แอธเลติก
ถ้าจิมมี่ บูลลาร์ด ลงเล่น จะเพิ่มสถิติของสโมสรในการลงเล่นติดต่อกันในลีกออกไปเป็นนัดที่ 125 โดยบูลลาร์ด ลงเล่นเป็นตัวจริง 123 นัดจาก 124 นัดในลีกนับตั้งแต่ย้ายมาจากปีเตอร์โบโร่ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2003 เขาพลาดการลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมเยือนเชลซี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ได้ลงมาเป็นตัวสำรอง บูลลาร์ด ไม่ได้ลงเล่นให้กับวีแกน เพียง 2 นัดเท่านั้นคือ เกมคาร์ลิ่ง คัพ ในฤดูกาลนี้ที่พบกับบอร์นมัธ และนิวคาสเซิล
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 0 ครั้ง, วีแกน ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 0 ครั้ง, วีแกน ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
สถิติการพบกันในเกมเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 0 ครั้ง, วีแกน ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 0 ครั้ง, วีแกน ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
DaKinG